Q & A : ฉีดฟิลเลอร์แต่เท่าที่ทราบฟิลเลอร์มีอายุจำกัดแค่ไม่เกิน 1 ปี อยากทราบว่ามีวิธีใดที่ทำให้อยู่ได้นาน

Category: Q & A

 

Q :    ดิฉันอายุ 41 ปี มีปัญหาหน้าดูแก่ก่อนวัย และดูโทรมมาก เท่าที่สังเกตนอกจากมีริ้วรอยแล้ว ส่วนหนึ่งที่คิดว่าเป็นปัญหาที่ทำให้เป็นกังวลมากที่สุดคือ ปัญหาหน้าแบบเป็นร่องคาดจากใต้ตาและมีปัญหาเป็นร่องลึกใต้ตา ดูหมองคล้ำ คิดว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้หน้าดิฉันดูแก่ก่อนวัย เคยอ่านจากนิตยสารนี้ ได้ความรู้ว่าน่าจะฉีดฟิลเลอร์แต่เท่าที่ทราบฟิลเลอร์มีอายุจำกัดแค่ไม่เกิน 1 ปี อยากทราบว่ามีวิธีใดที่ทำให้อยู่ได้นาน แต่ดิฉันกลัวการทำศัลยกรรมนะค่ะ

 

A :    ปัญหาที่คุณกล่าวมานั้น เป็นปัญหาที่พบได้ในทุกๆ คน และเป็นปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ใบหน้าของเราดูแก่และดูไม่สดใส นั่นคือปัญหาร่องลึกใต้ตาและบางรายอาจมีถุงใต้ตาด้วย รวมทั้งปัญหารอยคาดที่โหนกแก้มทำให้เกิดปัญหาใบหน้าช่วงกลางหย่อนคล้อย ส่งผลต่อเนื่องลงมาถึงการหย่อนคล้อยของใบหน้าช่วงล่างอีกด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้โดยมากเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ เช่น วัย 20 ปี และความรุนแรงของปัญหาเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นได้ชัดเจนในเกือบทุกคนในวัยประมาณ 35 ปี ซึ่งปัญหานี้เกิดจาก ปัญหาของผิวที่หย่อนคล้อย โดยเริ่มเกิดจากการเสื่อมของกระดูกโหนกแก้มตามวัย เมื่อกระดูกโหนกแก้มเสื่อม ผิวชั้นบน (ชั้นไขมันชั้นลึก, ชั้นกล้ามเนื้อ, ชั้นไขมันชั้นตื้น รวมทั้งชั้นผิวหนัง) จึงขาดการพยุง จึงทรุดตัวลงมา พร้อมๆกับชั้นต่างๆ ดังกล่าวเสื่อมโทรมและฝ่อตัวลงด้วย จึงทำให้ใบหน้าช่วงโหนกแก้มใต้ตาแบนลง และบางรายเป็นรอยคาดหรือร่องลึกชัดเจนพร้อมกับผิวบริเวณที่หย่อนลงตกลงมา ทำให้กลายเป็นร่องแก้มที่ลึกขึ้น รวมทั้งเกิดต่อเนื่องไปถึงผิวรอบดวงตาที่กลายเป็นร่องลึก และเกิดเป็นถุงใต้ตาที่ค่อยๆ ป่องออกมาและหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูแก่ชรามากขึ้น และเป็นจุดหลักที่คนมองมาจะมองหน้าที่จุดนี้เป็นอันดับแรก การแก้ไขปัญหา นอกจากจะแก้ที่ผิวทุกระดับชั้น เช่น การใช้ฟิลเลอร์เพื่อชดเชยการฝ่อตัวของชั้นไขมันและผิวหนังชั้นบนแล้ว การแก้ไขให้ตรงจุดที่สุด คือการชดเชยกระดูกที่สูญเสียไป การใช้ฟิลเลอร์เพื่อชดเชยกระดูกที่สูญเสียไปนี้ ถ้าเพียงแค่การวางฟิลเลอร์ไปบนกระดูกนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เพราะแม้จะแก้ปัญหาได้บ้าง แต่ไม่ได้ชดเชยกระดูกที่ตำแหน่งที่มันเสียไปจริง และมีอายุอยู่ไม่นาน ตั้งแต่ 6 เดือน 2 ปี แล้วแต่ชนิดของฟิลเลอร์ แต่หมอได้คิดค้นวิธีใหม่ที่ ตอบโจทย์การสูญเสียกระดูกได้ตรงจุด นั้นคือ การใช้ฟิลเลอร์เข้าไปฝังถึงในชั้นกระดูกเลย นั่นคือการฝังฟิลเลอร์ไว้ใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก (Subperiosteal filler injection) โดยใช้เข็มทู่ ข้อดีคือ ฟิลเลอร์ทำหน้าที่เสมือนกระดูกจริงๆ ได้ตรงจุด สามารถเห็นผลได้ชัดเจนกว่า ใช้ฟิลเลอร์ชนกระดูก หรือบนกระดูกมากมายหลายเท่า เพราะฟิลเลอร์ไปไหลเผละไปตามชั้นของไขมัน และที่สำคัญคือ ทำให้ผลในการยกหน้าขึ้นนี้อยู่ได้ยาวนานมาก ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจอยู่ได้ยาวนานกว่า 5 ปี และวิธีการเดียวกันนี้สามารถแก้ปัญหาเบ้าตาลึกได้อีกด้วย โดยการฝังฟิลเลอร์ชนิดเฉพาะผิวเบ้าตา เข้าไปใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูกที่ผิวเบ้าตา ทำให้ได้ผลดี สวยงาม อยู่ได้ยาวนาน โดยที่เจ็บน้อยมาก และแทบไม่มีร่องรอยและไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย